เกี่ยวกับน้องไอซ์

รูปภาพของฉัน
ชื่อ : ด.ญ.ชนิดาภา รัตนฉัตรชัย ชื่อเล่น : น้องไอซ์ ปัจจุบัน : เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา 3/4 โรงเรียนมารีวิทย์สัตหีบค่ะ (อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี) สีที่ชอบ : ฟ้า,ชมพู ค่ะ… สิ่งที่ชอบที่สุด : โดเรมอนและแมวคิตตี้ค่ะ…. สิ่งที่รักที่สุด : ปะป๋าและคุณแม่อั้มค่ะ…. และจะบอกอะไรให้หนูนะแฟนพันธ์แท้ : The star ค่ะ…..

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พาหนะคู่ใจ.... ใช้สำหรับทิปนี้... เที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์...



ท่าน้ำบ้านกลาง ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา










มาชม สวนสาธารณะบึงสีคิ้ว ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

สวนสาธารณะบึงสีคิ้ว ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสีคิ้ว เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในเขตเทศบาล เพื่อให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรมนันทนาการและกิจกรรมอื่น ๆ เปิดเวลา 05.00 น. และปิดเวลา 20.00 น. ภายในบริเวณสวนสาธารณะบึงสีคิ้ว มีบริการต่างๆไว้เพื่อบริการประชาชน เช่น ลานแอโรบิก บริเวณเกาะกลางซึ่งจะมีประชาชนมาออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิกในเวลา 18.00 -19.00 น.ของทุกวัน นอกจากนี้ยังได้จัดทำทางวิ่งออกกำลังกายรอบเกาะกลาง และภายในสวนสาธารณะบึงสีคิ้วยังเป็นที่ตั้งของศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองสีคิ้ว ซึ่งให้บริการสระว่ายน้ำสำหรับประชาชน มีบริการฟิตเนส ซาวน่า และห้องสมุดไว้คอยบริการ





วัดใหญ่สีคิ้วคณาราม อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา



กางเต็นนอน.....สุขใจจัง...

เที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ กางเต็นท์นอน



เที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์...

วัดพระพุทธฉาย ตั้งอยู่เชิงเขาปถวี (ปฐวี) ที่ตำบลหนองปลาไหล เข้าทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธฉาย หรือ รอยพระพุทธรูป อยู่บนแผ่นหินซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผา มีการสร้างมณฑปครอบไว้ มีบันไดจากบริเวณวัดด้านล่างขึ้นไปยังมณฑป และต่อไปยังหน้าผาซึ่งอยู่เหนือมณฑปขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีภาพเขียนลายเส้นยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่บริเวณเชิงผา ได้แก่ ภาพสัตว์ลายเส้นคล้ายตัวกวาง บริเวณข้างประตูเข้าพระพุทธฉาย พบภาพมือคน และภาพสัญลักษณ์ บริเวณจากถ้ำฤาษีไปทางพระพุทธฉายทางทิศตะวันตก พบภาพเขียนรูปไก่ ภาพพระพุทธรูป และภาพสัญลักษณ์ และบริเวณหน้าผา จปร. พบภาพลายเส้นขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน คล้ายภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ที่เคยถูกค้นพบที่ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี เขียนด้วยยางไม้มีอายุเก่าแก่ประมาณ 3,000 ปี โดยเขียนสัญลักษณ์ใช้สื่อความหมายให้เข้าใจในหมู่เดียวกัน และอาจจะเป็นสื่อทางพิธีกรรม และความเชื่อของคนในยุคนั้น และยังพบ รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา เมื่อ พ.ศ.2537 กรมศิลปากรได้ทำการซ่อมมณฑปบน ภูเขาบริเวณวัดพระพุทธฉาย และเมื่อรื้อพื้นซีเมนต์พบรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาอยู่ใต้ทรายปรากฏเห็นเป็นรูปรอยประทับในหิน

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แกงหัวปลีผักชะอม

เตรียมผักและเครื่องปรุง มีหัวปลี 3 หัวเล็ก ผักชะอม 1 กำ ใบแมงลัก 1 กำ เห็ดอะไรก็ได้ 1 ถ้วย พริกชี้ฟ้าแดง 2-3 เม็ด ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนคาว ตำเองยิ่งดีแต่ถ้ายุ่งยากหาซื้อในตลาดแบบสำเร็จรูปก็ได้ ผู้เขียนก็ใช้พริกแกงสำเร็จรูปเหมือนกันแต่มาไกลหน่อยจันทบุรีโน่น!…เป็นพริกแกงพิเศษที่เหมาะกับแกงป่า ผัดเผ็ด เขาใส่เครื่องที่จะทำพริกแกงเยอะมาก พอโดนไฟโดนความร้อนจะหอมกระจาย ฉะนั้น จะดับคาวได้เป็นอย่างดี เวลาแกงที ผัดทีกลิ่นฟุ้งไป 7-8 บ้าน ได้ยินเสียงฮัดเช่ยยยย!!… กันอุตลุต (เป็นการทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้านทางอ้อม) สิ่งสำคัญต่อมาคือ กะทิสุขภาพที่มีส่วนผสมของนมถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว หรือกะทิที่มีเปอร์เซนต์กะทิน้อย 2 กล่อง หรือจะให้ชีวจิตจริง ๆ ใช้น้ำเต้าหู้ก็ได้ ตามด้วยเครื่องปรุงรสได้แก่ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส เกลือเล็กน้อย





หัวปลี ผักชะอม ใบแมงลัก เห็ดออรินจิ(หรือชนิดไหนก็ได้) พริกชี้ฟ้าและใบมะกรูด








กะทิเทียม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส พริกแกง










วิธีทำ ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด แล้วหั่น เด็ดใส่ชามพักไว้ ยกเว้นหัวปลีให้หั่นเป็นแว่นบาง ๆ แล้วแช่ในน้ำผสมน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้หัวปลีดำ จากนั้นเทกะทิใส่หม้อตั้งไฟพอเดือดใส่พริกแกงคนให้หอม เติมน้ำเพิ่มอีกเล็กน้อยตามปริมาณผักที่จะใส่แต่อย่าให้โจ๋งเจ๋งเกินไป กะดูให้พอดี พอกะทิเดือดสงหัวปลีให้สะเด็ดน้ำใส่ลงหม้อ ใส่เห็ด รอให้เห็ดกับหัวปลีสุกซักครู่จึงใส่ผักชะอม แล้วปรุงรสชิมดูตามชอบ รอให้เดือดอีกเป็นครั้งสุดท้ายจึงใส่ใบแมงลัก ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าแล้วยกหม้อลง ตักเสริฟ









แกงหม้อนี้คุณผู้อ่านจะได้รับธาตุเหล็กสารป้องกันโรคกระเพาะจากหัวปลี ส่วนใบชะอมและใบแมงลักยังช่วยลดความร้อนในร่างกาย ขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อจะมีอาหารชาติไหนในโลกที่มีสรรพคุณทางยากับผักพื้นบ้านแบบนี้

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บ้านน้องไอซ์....

บ้านน้องไอซ์....สวยมั๊ยค่ะ....อยู่บนเขา .....วิวสูง เห็นภูเขาและทะเล.....ด้วยนะค่ะ.....
๑. เริ่มต้น ลงโครงสร้างหลักของบ้าน เตรียมพื้นล่างและลงหลุมเสาต่างๆ ของบ้านค่ะ ....นะค่ะ..
๒. ทำพิธียกเสาเอก และ เสาโท ของบ้านค่ะ...
ของใช้ในพิธี
จัดโต๊ะหมู่บูชา ๑ ชุด พร้อมเครื่องสักการะ (ถ้าประสงค์)
จตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ ๑ ชุด (กรณีนิมนต์พระมาประพรมน้ำมนต์ที่หลุม และเจริญชัยมงคลคาถา)

เครื่องบูชาฤกษ์หรือสังเวยเทวดา (จัดย่อส่วนก็ได้ ดูพิธีวางศิลาฤกษ์)
- ใบทอง นาก เงิน อย่างละ ๓ ใบ
- เหรียญทอง เงิน อย่างละ ๙ เหรียญ
- ทรายเสก ๑ ขัน
- น้ำมนต์ ๑ ขัน (พร้อมกำหญ้าคา ๑ กำ)
- ด้ายสายสิญจน์ ๑ ม้วนเล็ก
- ทองคำเปลว ๓ แผ่น
- ผ้าแพรสีแดง ห่มเสา หรือผ้าขาวม้า ๑ ผืน
- หน่อกล้วย อ้อย อย่างละ ๑ หน่อ
- ไม้มงคล ๙ ชนิด (ถ้าประสงค์)
- แผ่นทอง นาก เงิน อย่างละ ๑ แผ่น
- ข้าวตอกดอกไม้ ๑ ขันลำดับพิธี
- วางสายสิญจน์ เริ่มจากโต๊ะบูชาไปโต๊ะสังเวยขวาบริเวณสถานที่ก่อสร้างเข้าสู่เสาเอก (ก่อนเวลาฤกษ์พอสมควร)
เริ่มพิธี
- เจ้าภาพจุดเทียนธูปที่โต๊ะหมู่บูชา อธิษฐานเพื่อเกิดสิริมงคล กราบพระ
- จุดเทียนธูปที่โต๊ะสังเวย บูชาเทวดาให้คุ้มครอง
- พิธีกรกล่าวสังเวยเทวดา
- เจ้าภาพตอกไม้มงคล ๙ ชนิด (ถ้ามี)
- วางแผ่นทอง นาก เงินในหลุมเสาเอก (ถ้ามี)
- นำใบทอง นาก เงิน และเหรียญทอง เงิน ลงก้นหลุมแล้วนิมนต์พระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์
- โปรยทรายเสกที่หลุมเสา
- เจิมและปิดทองเสาเอก
- ผูกหน่อกล้วย อ้อย และผ้าสีแดงหรือผ้าขาวม้าที่เสาเอก
- ถือด้ายสายสิญจน์ พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี
- ช่าง ช่วยกันยกเสาเอก จนตั้งเรียบร้อย (ขณะยกเสานั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา) (ถ้ามี)
- เจ้าภาพโปรยข้าวตอกดอกไม้ลงหลุมเสาเอก พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี เสร็จพิธี