เตรียมผักและเครื่องปรุง มีหัวปลี 3 หัวเล็ก ผักชะอม 1 กำ ใบแมงลัก 1 กำ เห็ดอะไรก็ได้ 1 ถ้วย พริกชี้ฟ้าแดง 2-3 เม็ด ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนคาว ตำเองยิ่งดีแต่ถ้ายุ่งยากหาซื้อในตลาดแบบสำเร็จรูปก็ได้ ผู้เขียนก็ใช้พริกแกงสำเร็จรูปเหมือนกันแต่มาไกลหน่อยจันทบุรีโน่น!…เป็นพริกแกงพิเศษที่เหมาะกับแกงป่า ผัดเผ็ด เขาใส่เครื่องที่จะทำพริกแกงเยอะมาก พอโดนไฟโดนความร้อนจะหอมกระจาย ฉะนั้น จะดับคาวได้เป็นอย่างดี เวลาแกงที ผัดทีกลิ่นฟุ้งไป 7-8 บ้าน ได้ยินเสียงฮัดเช่ยยยย!!… กันอุตลุต (เป็นการทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้านทางอ้อม) สิ่งสำคัญต่อมาคือ กะทิสุขภาพที่มีส่วนผสมของนมถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว หรือกะทิที่มีเปอร์เซนต์กะทิน้อย 2 กล่อง หรือจะให้ชีวจิตจริง ๆ ใช้น้ำเต้าหู้ก็ได้ ตามด้วยเครื่องปรุงรสได้แก่ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส เกลือเล็กน้อย

หัวปลี ผักชะอม ใบแมงลัก เห็ดออรินจิ(หรือชนิดไหนก็ได้) พริกชี้ฟ้าและใบมะกรูด
กะทิเทียม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส พริกแกง




วิธีทำ ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด แล้วหั่น เด็ดใส่ชามพักไว้ ยกเว้นหัวปลีให้หั่นเป็นแว่นบาง ๆ แล้วแช่ในน้ำผสมน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้หัวปลีดำ จากนั้นเทกะทิใส่หม้อตั้งไฟพอเดือดใส่พริกแกงคนให้หอม เติมน้ำเพิ่มอีกเล็กน้อยตามปริมาณผักที่จะใส่แต่อย่าให้โจ๋งเจ๋งเกินไป กะดูให้พอดี พอกะทิเดือดสงหัวปลีให้สะเด็ดน้ำใส่ลงหม้อ ใส่เห็ด รอให้เห็ดกับหัวปลีสุกซักครู่จึงใส่ผักชะอม แล้วปรุงรสชิมดูตามชอบ รอให้เดือดอีกเป็นครั้งสุดท้ายจึงใส่ใบแมงลัก ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าแล้วยกหม้อลง ตักเสริฟ









แกงหม้อนี้คุณผู้อ่านจะได้รับธาตุเหล็กสารป้องกันโรคกระเพาะจากหัวปลี ส่วนใบชะอมและใบแมงลักยังช่วยลดความร้อนในร่างกาย ขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อจะมีอาหารชาติไหนในโลกที่มีสรรพคุณทางยากับผักพื้นบ้านแบบนี้



งานนี้ต้องลองไปหัดทำดูหน่อยแล้ว....ไม่รู้จะทานได้ปะ...
ตอบลบ